สาระความรู้ โดยเพจคดีโลกคดีธรรม
"_ #ในตอนแรก เหมือนว่า ผู้ต้องหาจะยอมรับ #แบบไม่เป็นทางการ กับทางผู้บังคับบัญชาไปแล้ว ว่า ทำผิดจริง ในตอนนี้ กลับมาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิด ผมเข้าใจว่าคงไปปรึกษากับนักกฎหมายมาแล้ว ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาเขา และก็เป็นสิทธิของนักกฎหมายที่จะให้คำแนะนำเช่นนี #แต่ผมขอให้ข้อสังเกต ว่า การที่กฎหมาย ไม่ให้ใช้ถ้อยคำรับสารภาพในชั้นจับกุมมาเป็นพยาน ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 84 วรรคท้าย ต้องพิจารณาดูให้ดีๆนะครับว่า #เป็นคำรับสารภาพในชั้น#ของการจับกุม จริงๆ เพราะหากว่า เป็นการให้การรับสารภาพ#ก่อน ที่จะมีการจับกุม กรณีนี้ จะถือว่าถ้าได้ไปรับสารภาพกับใคร #คำรับนั้น#ศาลย่อมจะรับฟังลงโทษจำเลยได้ฉะนั้นคดีนี้ ถ้าได้ความว่า ก่อนที่จะมีการจับกุม จำเลยเคยให้การยอมรับกับทางผู้บังคับบัญชาว่าทำผิดจริง ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ทางโจทก์ หรือพนักงานอัยการ สามารถอ้างผู้บังคับบัญชามาเป็นพยานในส่วนนี้ได้ และเนื่องจากไม่ใช่คำรับในชั้นจับกุม ศาลจึงไม่ถูกกฎหมายห้ามรับฟัง (ไม่ใช่บทตัดพยาน)ดังนั้น ตำรวจท่านนี้ ควรคิดให้รอบคอบและ สอบถามนักกฎหมายให้แน่นอนว่ากรณีของตนเองมีโอกาสแค่ไหน หากจะต่อสู้คดี หากเห็นว่าไม่มีโอกาส ก็ควรถือหลักเดียวกับ #คุณชูวิทย์_กมลวิศิษฎ์ที่ว่า"สู้ติดแน่ แพ้ติดนาน รับติดปานกลาง"และเมื่อได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็ให้ถือหลักที่ว่า "...อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้..."แตหากเป็นการปฏิเสธ #เพื่อที่จะยื้อเวลา#เพื่อการใด ก็จะต้องมั่นใจว่าการนั้นจะสำเร็จจริงๆ และทันก่อนที่ศาลจะพิพากษา_"
ย้อนกลับ